การทำสัญญา ขายฝาก คือ การทำสัญญาเพื่อกู้เงินซึ่งเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในประเทศไทย เพราะผู้กู้เงินจะได้รับการอนุมัติเร็ว นายทุนที่รับทำมักจะให้วงเงินสูงกว่าจำนองค่อนข้างเยอะ และจะไม่ดู Statement ไม่เชคแบลคลิส และเครดิตลูกหนี้ โดยรายละเอียดของสัญญาแบ่งได้เป็น ข้อๆ ดังนี้
ตามกฏหมายแล้วจะใช้คำว่า สินไถ่ หรือราคาซื้อคืน จะต้องกำหนดไว้ตั้งแต่ทำสัญญา ณ กรมที่ดิน เท่าไรก็ได้ตามแต่จะตกลงกัน แต่จะต้องไม่เกินราคาขายฝาก + ผลประโยชน์ตอบแทนร้อยละ 15 ต่อปี ยกตัวอย่างเช่น
“นายตู่ นำบ้านพร้อมที่ดิน ไปทำ สัญญาขายฝาก ไว้กับ นางปู โดยทำสัญญาเป็นระยะเวลา 1 ปี ราคาขายฝากที่ 100,000 บาท แปลว่าเมื่อครบ 1 ปี ราคาไถ่คืนรวมแล้วต้องไม่เกิน 115,000 บาท”
สำหรับผู้ขายฝาก ที่กังวลว่าระหว่างที่อยู่ในสัญญา ผู้รับซื้อฝากจะนำบ้านของท่านไปขายต่อนั้น ขอบบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ เพราะตามสัญญาขายฝากแล้ว ผู้รับซื้อฝากจะห้ามนำ บ้าน ที่ดิน ที่อยุ่ในสัญญามาขาย หรือโอนไปให้ผู้อื่นเด็ดขาด! นอกจากจะขายคืนให้ผู้ขายฝากเท่านั้น
แล้วถ้าผู้ซื้อฝากฝ่าฝืน นำบ้าน ที่ดินนี้ไปขายหละ? ถ้าในกรณีนี้ผู้ขายฝา่ก สามารถเรียกค่าชดใช้ได้เต็มจำนวนราคาขายฝาก สมมุติว่า ทำสัญญากันไว้ที่ 100,000 บาท ก็สามารถเรียกร้องเงินคืนได้ 100,000 บาทครับผม
สำหรับผู้รับซื้อฝาก บางคน ซึ่งเป็นนายทุนแย่ๆ เล่นตุกติกกับผู้ขายฝาก ครบสัญญา ไถ่ถอนแล้วหนีหาย ติดต่อไม่ได้ ณ จุดนี้ผู้ขายฝากไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะท่านสามารถไปวางเงินไถ่ถอนได้ที่ สำนักงานวางทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ทรัพย์ที่ขายฝากกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของท่านทันที
ซึ่งสำนักงานวางทรัพย์ สามารถติดต่อได้ที่ ต่อไปนี้ ….
ก่อนทำสัญญา ควรคุยรายละเอียดเรื่องสัญญาได้แก่ วงเงิน, ดอกเบี้ย, การหักดอกเบี้ย, วันทำสัญญา กันอย่างละเอียดให้เข้าใจตรงกัน คุยเผื่อในระยะยาวเรื่องการต่อสัญญา ว่าสามารถทำได้มั้ย จ่ายเงินต้นเพื่อลดดอกเบี้ยได้หรือเปล่า เพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย
สำหรับเรื่องราวของการขายฝาก ยังมีหัวข้อน่าสนใจที่ควรจะศึกษาเพิ่มเติมอีกมากมาย ก่อนคิดที่จะทำสัญญา ติดตามได้ที่ Link ต่อไปนี้เลยครับ..